ก่อนอื่นไปดูโปรแกรมแข่งขัน สัปดาห์ที่ 2 คู่ที่ 1 ที่โรงยิมส์ กองบัญชาการช่วยรบที่ 1 เจ้าบ้าน ชลบุรี พบกับ นครปฐม คู่นี้ขอเปลี่ยนแปลงจากวันเสาร์ยกมาแข่งในวันจันทร์ที่ 10 ก.ค.นี้เนื่องจาก มันกระชั้นชิดกับทัวร์นาเม้นท์ ตะกร้อชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 39 ชิงถ้วยพระราชทาน ม.ว.ก. ที่จะเริ่มขึ้น ตั้งแต่ 17-23 ก.ค.นี้ที่แฟชั่นไอส์แลนด์
คู่ที่ 2 ที่สนาม BTU เจ้าบ้าน กรุงเทพธนบุรี พบ สุรินทร์ คู่ที่ 3 ที่โรงยิมส์ สพล.ศรีสะเกษ เจ้าบ้าน ศรีสะเกษ พบกับ แพร่ คู่ที่ 4 ที่สนามโรงยิมส์อบจ.ขอนแก่น เจ้าบ้าน ขอนแก่น พบกับ กาฬสินธุ์ คู่ที่ 5 ที่สนามศูนย์การค้า เจ-เวนิว เจ้าบ้าน ปทุมธานี พบกับ นครราชสีมา
เรามาวิเคราะห์เจาะลึกถึงเกมในสัปดาห์ที่ 2 เริ่มที่คู่แรก ถือว่าเป็นคู่บิ๊กแมตช์ก็ว่าได้ ที่ทั้งคู่โคจรมาพบกันแมตช์แรก อย่างแชมป์ 10 สมัย นครปฐม "หมูป่าเขี้ยวตัน" ถือว่าผลงานในนัดเปิดสนาม ยังคงโชว์ฟอร์มได้ดี เก็บ 2 แต้มในบ้าน มาคราวนี้ คิดว่า นครปฐม ยังคงใช้ตัวผู้เล่นชุดเดิมที่เล่นในบ้าน อย่างแน่นอน ที่มีลูกรักอย่าง รังสิโรจน์ สิริสมุทรสาร กับ วุฒิชัย ดาวเรืองน้อย มาชนกับทีม ชลบุรี วัดกันไปเลย แต่ นครปฐม ก็ยังมีอาวุธร้ายกาจในแดนหลัก "บั๊กจ๋อย" ณัฐวุฒิ แนวพรม ตัวเสิร์ฟที่จะทำแต้มให้ทีม
ข้ามมาฝั่งทีม "สิงห์บูรพา" ชลบุรี เจ้าบ้าน ก็มีอาวุธร้ายกาจหลายตัว ทั้งตัวชงจอมเก๋า ประเสริฐ ผ่องผึ้ง ตัวทำจอมลีลา พายุ สังข์น้อย และธนุศาสตร์ ระวิโรจน์ ที่ทุกครั้งไม่ว่าจะขึ้นฟาดขึ้นบล็อก จะเป็นคนอ่านเกมได้ละเอียด ถือเป็นอาวุธร้ายกาจของทีมเช่นกัน ผลคู่นี้คิดว่าใครอ่านเกมละเอียดกว่ากันก็ชนะ น่าจะออกเสมอ 1-1 แต้ม ขอฟันธง
คู่ที่ 2 "พญาหงส์" กรุงเทพธนบุรี เปิดบ้านรับ "ช้างศึก" สุรินทร์ คู่นี้จัดได้ว่า เป็นอีกคู่ที่ออกมาสู่สีกัน แต่ฝั่งเจ้าบ้านน่าจะมีภาษีมากกว่า ที่มีเกมเสิร์ฟที่เหนือชั้นกว่า ถึง 2 คน โดยเฉพาะเจ้า "เทน" ไชยนนท์ กอบสันเที่ยะ และ สกล จันทร์ดวง ทำให้ สุรินทร์ ต้องตั้งป้อมเกมรับให้ดี ขอฟันธงแบ่งแต้ม 1-1
คู่ที่ 3 "เป็ดสายฟ้า" ศรีสะเกษ เปิดบ้านรับ "พญาไก่ฟ้า" แพร่ คู่นี้ดูฟอร์มการเล่นของทั้งคู่ ศรีสะเกษ แข่งในบ้านทั้งกองเชียร์เป็นแรงกดดัน อีกทั้งมีทีมเวิร์คเล่นเข้าขากันอย่างลงตัว ส่วนทีมเยือน ก็มี เจ้า "ไฝ" นิพัฒน์ ส่องประเสริฐ อดีตตัวทีมชาติ ที่ยังมีชั้นเชิงอยู่ ผสมกับคู่หน้าตัวทำ อนุรักษ์ บุญตา ตัวชง ธีรศักดิ์ โท่นขัด น่าจะได้เปรียบมากกว่า ขอเอียงข้างไปทาง แพร่แล้วกัน 2-0
คู่ที่ 4 "สิงห์ขอนแก่น" ขอนแก่น ผลงานนัดเปิดสนามแรกพ่ายให้กับ แพร่ มานัดนี้แข่งในบ้าน ดูตัวผู้เล่นแล้วน่าจะเป็นรอง แต่ต้องดูกึ๋นของโค้ชว่าจะมีการปรับเปลี่ยนผู้เล่นของตนอย่างไรให้เข้าที่เข้าทาง ไม่งั้นโดนอัดถล่มเละคาบ้านแน่ ฝั่ง "ไดโนทมิฬ"กาฬสินธุ์ ถือว่านัดที่ผ่านมาทำได้แค่ตีเสมอกับ ศรีสะเกษ นัดนี้น่าจะเป็นต่อ ดูจากตัวผู้เล่นแล้ว ฟอร์มเหนือชั้นกว่าเยอะ ขอฟันธงแล้วกัน กาฬสินธุ์ บุกไปโซยเก็บ 2-0
คู่ที่ 5 "อินทรีย์เจ้าเวหา" ปทุมธานี เปิดบ้านต้อนรับ "แบล็คแพนเตอร์" นครราชสีมา เกมของทั้งคู่ในนัดที่ผ่านมายังโชว์ฟอร์มได้ไม่ดี ไม่มีแต้มติดมือ มานัดนี้ทั้งคู่น่าจะเป็นคู่ที่สู่สีกัน เพราะชั้นเชิงของทั้งคู่เท่ากันดูจากเกมที่ผ่านมา แต่ ปทุมธานี น่าจะได้เปรียบมากกว่า ที่เล่นในบ้านตนเองบวกกับขนกองเชียร์มาเพียบ เพื่อเป็นแรงกดดันคู่แข่ง น่าจะทำให้ทีมเยือนมีหนาว มีสั่นขอฟันธง ปทุมธานี 2-0
และนี้คือ บทวิเคราะห์เจาะลึกก่อนเกมแข่งขันจริง อาจจะมีคาดเคลื่อนบ้างก็ขออภัย ณ จุดนี้นะขอรับ..

ทีมพญาหงส์ กทม. ถือได้ว่าเป็นทีมทุกคนเล่นได้อย่างสมบูรณ์หมดไม่ว่าจะแมตช์ในบ้านหรือแมตช์นอกบ้านทำได้ดีเยี่ยม แม้กระทั้งตัวสำรอง ก็โชว์ฝีไม้ลายมือไม่เบา ทำให้ครองใจแฟนๆชาวคลับอย่างเหนียวแน่น ถือได้ว่าการทำทีมประสบความสำเร็จ โดยเฮดโค้ชอย่าง อำนวย จันทมนตรี ที่มีผู้บังคับบัญชาอัดฉีดแบบเต็มเหนี่ยว ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุลชัยรุ่งเรือง ในศึกครั้งได้คว้าแชมป์ครั้งแรกถือว่าประสบความส้ำร็จเป็นอย่างมาก อาจเป็นเพราะทุกคนร่วมมือร่วมใจเป็นหนึ่งเดียวทำความฝันให้เป็นจริง
มาดูอีกทีมอดีตแชมป์ 8 สมัย "หมูป่าเขี้ยวตัน" นครปฐม ที่ปีนี้พลาดท่าเสียบังลังค์ให้กับเจ้า "พญาหงส์" ทำให้ตัวเองต้องตกหล่นไปอยู่อันดับที่ 4 ถือว่าทำผลงานตกต่ำเป็นอย่างมาก แต่ต้องชื่นชมด้วยกระแสแฟนคลับของเจ้า "หมูป่าเขี้ยวตัน" ที่ชนะหัวใจของแฟนคลับได้เป็นกอง มาดูทีมอันดับ 2 ที่ขาดไม่ถึง ที่ปีนี้ถึงแม้จะไม่คอยมีใครให้ความสนใจสักเท่าไหรแต่ผลงานทำมาตลอดทั้งฤดูกาล ถือได้ว่าเป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก เพราะทุกตัวของผู้เล่นถือว่าทำการบ้านมาอย่างดี โดยเฉพาะเฮดโค้ช อย่าง สุริยันต์ สุริยุทธ วางแผนการทำทีมอย่างมีชั้นเชิง โทรจิกตลอด ทำให้จอมขโมยซีน อย่าง "เป็ดสายฟ้า" ศรีสะเกษ ทำผลงานล่าสุดถีบเจ้า "ฉลามชล" ชลบุรี ตกห้อยอยู่ตามหลังมา มาดูทีมที่เคยครองรั้งตำแหน่งอันดับ 2 มานาน สุดท้ายแล้วต้องห้อยหลังตามเจ้า "เป็ดสายฟ้า" ในนัดสุดท้ายเล่นได้ดีทุกคนเพียงแต่มีบางอย่างที่ทำให้ทุกคนเล่นไม่เข้าขากัน หรือเป็นเพราะการผ่าทีมใหม่ หวังจะโค้นเจ้า "พญาหงส์" แต่ทำไม่สำเร็จ ทำให้การผ่าทีมตัวผู้เล่นไม่ประสบความสำเร็จ พ่ายแบบราบคาบให้กับเจ้าถิ่น แต่ก็ลบภาพข่าวลือทั้งหลาย แบบ "ล้มมวย" กันได้ ปีหน้าคงต้องเอาเป็นบทเรียน
มาดูทีมคงเส่นคงวากัน อย่าง "แมวป่าทมิฬ" นครราชสีมา ปีนี้ถือว่ามีตัวผู้เล่นชั้นแนวหน้าแต่ทำผลงานยังไม่เป็นที่พอใจของแฟนๆคลับทำให้ต้องอยู่กับที่ไม่ไปได้ ครองรั้งตำแหน่งอันดับ5 เช่นเดิม ปีหน้าคงว่ากันใหม่จะให้แฟนๆชาวคลับ "แมวป่าทมิฬ"ต้องเสียใจละ มาดูทีมน้องใหม่แห่งวงการ ที่ถือว่าทำตามเป้าหมายได้สำเร็จ ไม่ตกชั้นขอแค่อยู่อันดับที่ 6 "มังกรไฟ" ราชบุรี ที่ถือว่าเป็นแบบอย่างที่ดีในการจัดรูปแบบแข่งขันและแฟนคลับที่ได้มาจากใจล้วนๆ ทำให้ครองใจของผู้ชมอย่างเหนียวแน่น และเป็นครั้งแรกที่ทำได้ประสบความสำเร็จ ทำให้ทุกทีมมีหนาวแน่ในปีหน้า มาดูทีมอันดับ 7 "ไดโนทมิฬ" กาฬสินธุ์ นัดล้างตาทำไม่สำเร็จโดนยำเละคาบ้าน ดูจากตัวผู้เล่นแล้วยังเล่นแบบผีเข้าผีออก ทำให้ต้องกลับไปทบทวนอีกครั้งในปีหน้าอย่างแน่นอน อันดับ 8 นี้ก็น้องใหม่แห่งวงการ "กระเรียนพิฆาต" ชัยภูมิ หวุดหวิดเกือบตกชั้นเสียแล้ว โชคดีที่นัดสุดท้ายเก็บแต้มได้ทำให้ไม่ตกชั้น ปีหน้าคงต้องวางผู้เล่นใหม่หมดเสียแล้ว มาดูทีมกอดคอกันตกชั้น อย่าง "ม้านิลมังกร" ระยอง และ "พญาไก่ฟ้า" แพร่ ตลอดฤดูกาลมาถือว่าทำผลงานไม่ดีไม่เข้าเป้าอีกทั้งตัวผู้เล่นต้องผ่ากันใหม่หมด กอดคอกันแบบตกไปพร้อมกัน ต้องรอลุ้นอีกครั้งว่าปีหน้าทีมไหนจะเข้ามาเสียบแทน แต่ที่แน่อยากให้ทุกคนที่ตั้งใจทำแล้วก็ทำให้ได้อย่างที่ตั้งใจเอาไว้ เกมแข่งขันมีแพ้ มีชนะ เป็นเรื่องปกติของเกมกีฬา แต่ใครจะทำเกมแข่งขันให้ดูน่าเชื่อถือกว่ากันเยอะ...ปีหน้าพบกันใหม่นะขอรับ..แฟนๆชาวคลับเลาะคอร์ตตะกร้อทุกท่าน